วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สาเหตุแห่งความเครียด ตามแนวคิดทฤษฎีจิตวิเคราะห์ (Sigmund Freud) ตอนที่ 1

บทความโดย โกสินธุ์ อัคครุ่งเรือง
นักจิตวิทยาให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์



เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จำเป็นต้องมีกรอบแนวความคิดเพื่อกำหนดทิศทางของเรื่องที่กำลังจะกล่าวถึง เป็นการป้องกันไม่ให้ออกนอกกรอบ หรือทิศทางที่ต้องการจนเกินไป กรอบแนวความคิดจึงเป็นความรู้ชุดหนึ่งที่ประกอบไปด้วยแนวคิดของนักวิชาการหลาย ท่าน เป็นการรวบรวมหลักการทั่ว ๆ ไป (General principle) และเป็นหลักการที่สามารถนำมาใช้อ้างอิงหรืออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ (Explanatory principle) ซึ่งองค์ความรู้ที่รวบรวมมานั้นจะกรอบแนวความคิดพื้นฐานสำหรับผู้ให้คำปรึกษานำไปใช้ในการวิเคราะห์และอธิบายพฤติกรรมหรือแนวความคิดที่เกิดขึ้นของผู้รับคำปรึกษา

แนวคิดพื้นฐานที่สำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรม
     จิตสำนึกและจิตใต้สำนึกมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพและแสดงออกของมนุษย์ Freud เชื่อว่าพฤติกรรมทุกพฤติกรรมมีความหมาย และไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่จะมีจิตใจส่วนหนึ่งดำเนินการและสั่งการ ทำให้เกิดรูปแบบพฤติกรรมที่มีความหมายโดยเจ้าตัวไม่ตระหนัก ความหมายที่ซ่อนแฝงอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมบางพฤติกรรมมีสาเหตุมาจากประสบการณ์ชีวิตในวัยต้น  เช่น การพูดอย่างระมัดระวัง หรือการพลั้งเผลออย่างไม่รู้ตัว

     ฟรอยด์ ได้อธิบายว่าจิตใจของคนแม้จะไม่มีตัวตนให้เห็นเด่นชัด แต่ก็สามารถอธิบายและทำความเข้าใจได้ โดยกระบวนการการทำงานของจิตใจ โดยเปรียบเทียบโครงสร้างทางจิตของมนุษย์ว่ามีสภาพคล้ายภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร มีส่วนน้อยที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำเปรียบได้กับระดับจิตสำนึกควบคุม และส่วนที่อยู่ใต้ผิวน้ำซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเปรียบได้กับภาวะจิตใต้สำนึก และจิตในระดับใต้สำนึกนั้นประกอบด้วยกลไกทางจิตหลายประเภทช่น แรงจูงใจ อารมณ์ที่ถูกเก็บกด ความรู้สึกนึกคิด ความฝัน ความทรงจำ ฯลฯ ทำให้คนมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน โดยพฤติกรรมบางพฤติกรรมสามารที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ แต่อีกหลายพฤติกรรมนั้นสร้างความสับสนที่ไม่สามารถจะเข้าใจได้ เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุพฤติกรรมมนุษย์ ฟรอยด์ได้อธิบายถึงโครงสร้างบุคลิกภาพสรุปได้ดังนี้

โครงสร้างบุคลิกภาพ
ตามแนวคิดของฟรอยด์ ประกอบด้วยพลัง 3 ประการ ได้แก่ Id Ego และ Super Ego  พลังทั้ง 3 มีลักษณะเฉพาะตัว แต่ก็มีอิทธิพลต่อกันและทำงานสัมพันธ์กันตลอดเวลา บุคลิกภาพของผู้ใดมีลักษณะใดขึ้นอยู่กับพลัง Id Ego และ Super Ego  ทำงานร่วมกันในลักษณะอย่างไร
1. Id หรือสัญชาติญาณ พลังงานที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เป็นส่วนที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลา ดำเนินการโดยสัญชาตญาณธรรมชาติ โดยพื้นฐานบุคคลมีความปรารถนาให้ชีวิตมีความสุขสบาย Id จึงเป็นพลังที่ผลักดันให้บุคคลแสวงหาความสุขความพอใจ  โดยการตอบสนองความต้องการทางร่างกายอย่างปราศจากเหตุผลหรือความถูกต้องดีงาม พลัง Id จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พลังแสวงหาความสุข (Pleasure Seeking Principle)
2. Ego   เป็นพลังแห่งการรู้และเข้าใจ การรับรู้ข้อเท็จจริง การใช้เหตุผลกลั่นกรองก่อนที่จะดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมาย Ego จึงทำหน้าที่คล้ายสะพานเชื่อมที่แสวงหาวิธีการตอบสนองความต้องการ (Id) โดยไม่ขัดต่อสำนึกผิดชอบชั่วดี (Super Ego ) จนเกินไป  เช่น เมื่อหิว พลัง  Ego  ก็จะใช้เหตุผลตรึกตรองว่าจะบำบัดความหิวได้โดยวิธีใด ตามสถานภาพแวดล้อม เช่น ไปสำรวจตู้เย็นก่อน ทำอาหารเอง ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ฯลฯ  จึงมีชื่อเรียกว่า Ego  อีกอย่างว่าพลัง รู้ความจริง  ( Resllity Principle)  
3. Super Ego เป็นส่วนของบุคลิกภาพที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของมาตรฐานหรือคุณค่าทางศีลธรรมจรรยา คอยควบคุม Ego ให้หาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการสนองความต้องการ Id โดยเหนี่ยวรั้งให้ทำอะไรอยู่ในกรอบประเพณี ถูกเหตุถูกผล ให้คำนึงถึงความผิชอบชั่วดี มีคุณธรรม และสังคมเป็นใหญ่ โดยว่วนนี้จะควบคุมทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ประกอบด้วยระบบ 2 ระบบ คือ
3.1 The ego ideal คือการลอกเลียนแบบบุคคลในอุดมคติ เมื่อบุคคลมีความเชื่อว่าคนดีมีลักษณะอย่างไร หากปฏิบัติตามความเชื่อนั้นได้บุคคลก็จะรู้สึกภูมิใจ
3.2 The conscience คือการควบคุมให้บุคคลปฏิบัติตนให้อยู่ในมาตรฐานความเป็นคนดีที่ตนกำหนดไว้ หากบุคคลละเมินมาตรฐานความเป็นคนดีของตนเอง ก็จะเกิดความรู้สึกผิดหรือละอาย

จากทฤษฎีดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า บุคลิกภาพของแต่ละบุคคลมากจากความสัมพันธ์ระหว่าง Id  Ego  และSuper Ego โดย Id  เปรียบเสมือนสัญชาติญาณหรือตัณหาที่แสวงหาแต่ความพึงพอใจเพื่อมาตอบสนองต่อความต้องการของตนเอง ส่วน Super Ego เปรียบเสมือนมโนธรรมทำหน้าที่คอยเตือนหรือควบคุมไม่ให้ Ego แสดงอาการตามความเรียกร้องของสัญชาติญาณ บุคคลจะมีการแสดงออกทางพฤติกรรมตอบสนองในลักษณะใดนั้นขึ้นอยู่กับว่าพลังใดระหว่าง Id  หรือ Super Ego จะมีอำนาจต่อการตัดสินใจของ Ego มากกว่ากัน จากการทำงานที่ขัดแย้งกันของพลังทั้งสามส่วน ทำให้มนุษย์จำเป็นต้องมีการปรับตัวตามสถานการณ์ที่เข้ามาอยู่ตลอดเวลา


เอกสารอ้างอิง
Elton B.McNeil  , Zick Rubin.  1981 .The psychology of being human , Third edition . Harper & Row , Publishers,  New York

กิติกร มีทรัพย์.  (2554) . พื้นฐานทฤษฎีจิตวิเคราะห์.  พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สมิตร

สุวนีย์ เกี่ยวกิ่งแก้ว .  (2554) .  การพยาบาลจิตเวช. พิมพ์ครั้งที่ 2 .กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พระมหาศุภวัฒน์ ชุติมฺนโต (สุขดำ). (2548).  การศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดเรื่อง พฤติกรรมของมนุษย์ในทรรศนะของพุทธปรัชญาเถรวาทกับ ซิกมันด์ ฟรอยด์.  ปรัญญาพุทธศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาปรัชญา บัณฑิตวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย